โรงเรียนบ้านคีรีลาดพัฒนา เดิมเป็นสาขาของโรงเรียนนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ 1 ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 เดือน ธันวาคม พ.ศ. 2532 ชื่อโรงเรียนนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ 1 สาขาบ้านคีรีลาดพัฒนา มีพื้นที่ 17 ไร่ ได้รับบริจาคที่ดินจากนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ จังหวัดยะลา โรงเรียนมีอาคารเรียนชั่วคราว 1 หลัง สร้างด้วยงบประมาณของนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ จังหวัดยะลา เปิดสอนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีครู 1 คน มีนักเรียน 11 คน แยกเป็นเอกเทศเมื่อ เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2536 ชื่อโรงเรียนบ้านคีรีลาดพัฒนา มีครูประจำการ 5 คน ครูช่วยราชการ 1 คน มีนักเรียน 57 คน
ปัจจุบันโรงเรียนบ้านคีรีลาดพัฒนา มีจำนวนข้าราชการครูทั้งหมด 4 คน พนักงานราชการ 5 คน วิทยากรสอนอิสลามศึกษา 1 คน ลูกจ้างชั่วคราว (พนักงานบริการ) 1 คน พนักงานรักษาความปลอดภัย 1 คน บุคลากรทั้งหมด 13 คน จำนวนนักเรียนทั้งหมด 85 คน
สภาพชุมชนรอบบริเวณโรงเรียนมีลักษณะเป็นภูเขา มีประชากรประมาณ 425 คน อาชีพหลักของชุมชน คือ ทำสวนยางพารา ทำสวนผลไม้ รับจ้าง ส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม โรงเรียนอยู่ใกล้แหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติ มัสยิด ชุมชนรอบข้างให้การสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนการศึกษาเป็นอย่างดี เนื่องจากปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้โรงเรียนมีความเสี่ยงจากการคุกคามจากผู้ร้ายอยู่ตลอดเวลา ต้องปิดเรียนบ่อยครั้ง ทำให้การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนไม่ต่อเนื่อง ในหมู่บ้านมีแหล่งเรียนรู้ที่นำนักเรียนออกไปศึกษาเรียนรู้และผู้นำชุมชน โต๊ะอีหม่าม ผู้ใหญ่บ้าน มาสอนเกี่ยวกับศีลธรรม – จริยธรรม การปฏิบัติตนในการอยู่ร่วมกันในสังคม และการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง
ชื่อโครงการ : HEALTHY SHCOOL
หลักการและเหตุผล (ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหาที่โรงเรียนได้รับผลกระทบ)
สุขภาพกับการศึกษา เป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการควบคู่กันไป ให้เกิดการประสานเอื้ออำนวยประโยชน์ และเกื้อกูลซึ่งกันและกันในทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดต่อกลุ่มเป้าหมายเด็กนักเรียน คือ เด็กไทย ดี เก่ง มีสุข ปัจจุบันแนวทางการพัฒนาเด็กวัยเรียนและเยาวชนมีความชัดเจนเป็นรูปธรรมมากขึ้น ทั้งในเชิงยุทธศาสตร์และเชิงเป้าหมาย โดยเฉพาะจาก 2 มิติสำคัญของนโยบายชาติ ประการที่หนึ่ง คือ มิติแห่ง “การปฏิรูปการศึกษา” กล่าวถึง “การประกันคุณภาพการศึกษา” ในด้านกระบวนการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญบนพื้นฐานกระบวนการจัดการศึกษาในปรัชญาหลัก 3 ประการ คือ การศึกษาเพื่อปวงชน การศึกษาตลอดชีวิต และการศึกษาเพื่อการแก้ไขปัญหาทั้งมวล อีกประการหนึ่ง คือ มิติแห่ง “การปฏิรูประบบสุขภาพ” กล่าวถึง “การสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” ซึ่งเป็นการให้สิทธิขั้นพื้นฐานแก่ประชาชน บุคคลย่อมมีสิทธิเสมอกันในการรับบริการสาธารณสุขที่ได้มาตรฐาน โดยกระบวนการจัดการด้านสุขภาพในปรัชญาหลัก 3 ประการเช่นเดียวกัน คือ สุขภาพเพื่อปวงชน สุขภาพเพื่อชีวิต และสุขภาพเพื่อแก้ไขปัญหาทั้งมวล จึงเห็นได้ว่าทั้ง 2 มิติ ต่างมีความเชื่อมโยงจากรากฐานปรัชญาเดียวกัน (กรมอนามัย, 2546: 4)
การพัฒนาเด็กและเยาวชน จึงอยู่ที่กระบวนการจัดการศึกษาและการสร้างสุขภาพ จุดเริ่มต้นจึงจำเป็นต้องมุ่งไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพของสถาบันการศึกษาให้เป็นแกนนำหรือศูนย์กลางการสร้างสุขภาพพร้อมๆ กับการพัฒนาศึกษา ภายใต้ความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องนับตั้งแต่ครอบครัวของเด็ก โรงเรียน ชุมชน และองค์กรในท้องถิ่นซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นสถาบันพื้นฐานทางสังคมที่มีความสำคัญยิ่งต่อการพัฒนา โรงเรียนบ้านคีรีลาดพัฒนาได้นำเอาแนวคิดดังกล่าวมาดำเนินงานพัฒนาโรงเรียนโดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ทั้งจากตนเองและชุมชน เพื่อพัฒนาให้โรงเรียนเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาสุขภาพควบคู่ไปกับการเรียนการสอน โดยมีบทบาทในการพัฒนาสุขภาพอนามัยและการเรียนรู้ของนักเรียน ครู บุคลากรในโรงเรียนและสมาชิกในชุมชน ภายใต้การบริหารจัดการของโรงเรียน ประสานการมีส่วนร่วมของผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งด้านการศึกษา สาธารณสุขและชุมชน เพื่อให้นักเรียนสามารถดูแลสุขภาพตนเองและผู้อื่น รวมทั้งมีพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดี
โรงเรียนบ้านคีรีลาดพัฒนา เป็นโรงเรียนที่อยู่ห่างจากตัวเมืองมาก และห่างไกลความเจริญ เป็นโรงเรียนขนาดเล็กซึ่งได้รับการจัดสรรงบประมาณในการบริหารจัดการจำนวนน้อย และทางโรงเรียนมีงบประมาณไม่เพียงพอ โรงเรียนขาดห้องพยาบาลที่เป็นสัดส่วน ปัจจุบันอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับห้องสำนักงานโรงเรียน ขาดอุปกรณ์และเวชภัณฑ์ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น โรงเรียนอยู่ห่างไกลจากสถานบริการสาธารณสุขและการคมนาคมไม่สะดวก รวมทั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยจากเหตุการณ์ความไม่สงบ จึงจำเป็นต้องสร้างห้องพยาบาลที่มีมาตรฐานสำหรับนักเรียน บุคลากรในโรงเรียนและชุมชน
วัตถุประสงค์ของโครงการ
- เพื่อให้สิ่งแวดล้อมในโรงเรียนเอื้อต่อการเรียนรู้อย่างเหมาะสมให้แก่นักเรียนและบุคลากรอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
- เพื่อให้มีห้องพยาบาล ยาและเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นต่อการดูแลสุขภาพ เฝ้าระวังโรค และรักษาพยาบาลเบื้องต้น สำหรับนักเรียนและบุคลากรในโรงเรียนรวมทั้งชุมชนได้
งบประมาณ
- สร้างห้องพยาบาล เป็นเงิน 150,000 บาท
- ยาและเวชภัณฑ์ เป็นเงิน 5,000 บาท
- เครื่องชั่งน้ำหนักพร้อมที่วัดส่วนสูง (ดิจิตอล) เป็นเงิน 5,000 บาท
รวมเป็นเงิน 160,000 บาท (หมายเหตุ สามารถถัวเฉลี่ยกันได้)
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
โรงเรียนและชุมชนมีห้องพยาบาลที่มีมาตรฐานสามารถดูแลสุขภาพเบื้องต้นได้